ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) จะวัดว่าผู้บริโภคทั่ว ๆ ไปมองโลกในแง่ดี หรือมองโลกในแง่ร้ายเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินที่คาดหวังไว้อย่างไร กล่าวอีกนัยหนึ่ง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ทำให้สามารถมองเห็นภาพรวมของสภาพเศรษฐกิจที่แท้จริงตามความเห็นของผู้บริโภค เป็นตัวบ่งชี้สำคัญที่แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคจะทำการกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคตอย่างไร หากสถานการณ์ทางการเงินของผู้บริโภคส่วนใหญ่มีลักษณะฝืดเคือง นั่นหมายความว่ามีเพียงไม่กี่คนที่สามารถซื้อสินค้าราคาแพงได้ เช่น บ้าน และรถยนต์ และสิ่งนี้บ่งชี้ว่าโครงสร้างต้นทุนกำลังนำไปสู่การชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือแม้แต่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย หากผู้บริโภคมองโลกในแง่ดีแล้วรายได้ของพวกเขาจะช่วยทำให้พวกเขาซื้อสินค้าราคาแพงได้ และนี่จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคต
อย่าลืมว่าการบริโภคของผู้บริโภคอยู่ที่ประมาณ 75% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในสหรัฐฯ แนวคิดที่ว่าผู้บริโภครู้สึกอย่างไร และอาจส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อของพวกเขาอย่างไรจะสามารถระบุข้อมูลที่มีคุณค่าต่อการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะดำเนินไปในทิศทางใดได้ เศรษฐกิจเกี่ยวข้องกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอย่างไร หากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ยอดค้าปลีกก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อส่วนที่เหลือของเศรษฐกิจเนื่องจากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ธุรกิจขยายตัวได้ซึ่งอาจนำไปสู่การจ้างงาน และในหลักการเดียวกันอาจทำให้เกิดทิศทางตรงกันข้ามได้เช่นกัน
ดัชนีถูกคำนวณมาจากการสำรวจผู้บริโภคประมาณ 5,000 คน แบบสำรวจนี้แบ่งออกไปเป็นคำถามเกี่ยวกับความรู้สึกของผู้คนในปัจจุบัน และความคาดหวังในอนาคต มีการทำการสำรวจทุกเดือน และมีคำถามประมาณ 50 ข้อเพื่อติดตามทัศนคติของผู้บริโภคในด้านต่าง ๆ ที่มีต่อสภาพธุรกิจในปัจจุบัน และอนาคต สภาพการจ้างงาน และรายได้รวมของครอบครัวในช่วงหกเดือนข้างหน้า
วิธีอ่านข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภค
มีการวิเคราะห์ดัชนีที่เกี่ยวข้องกับเครื่องหมาย 100 สมมติว่าดัชนีอยู่เหนือ 100 และกำลังเพิ่มขึ้น ในกรณีดังกล่าว แสดงให้เห็นความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในอนาคตจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสประหยัดน้อยลง และมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าราคาแพงได้ในอีก 6 เดือนข้างหน้า หากมูลค่าต่ำกว่า 100 และกำลังลดลง แสดงว่ามีทัศนคติที่ไม่ดีต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในอนาคตซึ่งอาจนำไปสู่แนวโน้มที่จะประหยัดเงินมากขึ้น และบริโภคน้อยลง
การเปลี่ยนแปลงเชิงลบของ CCI จะมาพร้อมกับการลดลงของดัชนีหุ้น การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกของ CCI จะกระตุ้นการเติบโตของดัชนีหุ้น
เราลองดูตัวอย่างที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนกัน เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม เวลา 17:00 น. (GMT+3) ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐอเมริกาล่าสุดจากคณะกรรมการการประชุม ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าเดือนที่แล้วดัชนีลดลงจาก 98.4 ไปเป็น 95.7 ข้อแรก คือ ดัชนีอยู่ต่ำกว่า 100 ข้อที่สอง คือ มีความเคลื่อนไหวติดลบ ข้อที่สาม คือ ผลลัพธ์แย่กว่าที่คาดไว้
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ดัชนีหุ้นเริ่มลดลงหลังจากมีข่าวเผยแพร่ออกมา นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของวิธีวิเคราะห์ดัชนีนี้
ขอให้ได้รับกำไรจากการซื้อขายนะคะ
เริ่มทำการซื้อขาย, 2022.08.20